รวมใบแดงฟุตบอลที่ไวที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
หากพูดถึงใบแดงแล้วคงไม่มีนักเตะคนไหนอยากได้กันใช่มั้ยล่ะครับ แต่ในความเป็นจริงนั้นผู้ตัดสินสามารถแจกใบแดงให้นักเตะได้ทุกเมื่อที่นักเตะทำผิดกฎการแข่งขัน มีผลให้ถูกไล่ออกจากสนามไป วันนี้เราจะขอเล่าถึงการแจกใบแดงฟุตบอลที่ไวที่สุดในประวัติศาสตร์ว่ามีแมตช์ไหนและใครโดนกันไปบ้าง ตามมาอ่านกันเลยครับ
8 ใบแดงที่ไวที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
1. 1 นาที 19 วินาที: อเล็กซ์ ยานเควิทซ์ (Alexandre Jankewitz)
ถึงแม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเปิดบ้านต้อนรับเซาแทมป์ตันไปถึง 9-0 ในแมตช์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020–21 แต่ไม่ใช่กับนักเตะหนุ่มอย่าง อเล็กซ์ ยานเควิทซ์ ที่ต้องออกจากสนามก่อนใครเพื่อน เนื่องจากยัน สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ เข้าเต็มเปาจนได้ใบแดงจากผู้ตัดสิน หลังจากลงสนามเพียง 1 นาที 19 วินาที
2. 48 วินาที: เดฟ คิตสัน (Dave Kitson)
แม้ว่าแชมป์เก่าอย่างแมนยู จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของเรดดิ้งในเเกมแรกของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2007-08 ด้วยสกอร์ 0-0 ก็ตาม แต่หนึ่งในไฮไลท์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือใบแดงของ เดฟ คิตสัน ที่เข้าไปปะทะใส่ ปาทริซ เอฟรา อย่างหนักหน่วง หลังจากลงสนามได้เพียง 48 วินาทีเท่านั้น จนถึงขั้นที่ รุด กุลลิท ผู้บรรยายพิเศษออกปากพูดว่าเป็นฟาวล์ที่รุนแรงจนถึงขั้นให้ใบแดง 2 ใบได้เลย
3. 38 วินาที: สตีเวน เจอร์ราร์ด (Steven George Gerrard)
หากพูดถึงแมตช์ที่แฟนบอลหลายคนยังจดจำได้จนถึงทุกวันนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นแมตช์ก่อนอำลาหงส์แดงของ สตีเวน เจอร์ราร์ด ในฤดูกาล 2014–15 โดยใบแดงที่กัปตันเจอร์ราร์ดได้มาจากผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน ข้อหาเจตนาย่ำข้อเท้า อันเดร์ เอร์เรรา กองกลางของแมนยู หลังจากที่เจอร์ราร์ดลงสนามเพียง 38 วินาทีเท่านั้น ศึกแดงเดือดครั้งนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของลิเวอร์พูล 1-2 หลังจากการแข่งขันเจอร์ราร์ดออกมาให้สัมภาษณ์ว่าที่เขาย่ำเท้าใส่ก็เพราะถูกเอร์เรร่าอัดเข้าใส่ก่อน แม้จะออกมาขอโทษแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมแล้วก็ตาม แต่ถึงอย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้นับเป็นการแจกใบแดงที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว
4. 33 วินาที: เจสัน โครว์ (Jason Crowe)
แม้จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาถึง 2 ทศวรรษและไม่ได้มีผลงานโดดเด่นมากนักและถูกส่งตัวไปเล่นแบบยืมตัวมาตลอด แต่เจสัน โครว์กลับกลายเป็นนักเตะที่ใครๆ ต่างก็รู้จักจากใบแดงในแมตช์ที่อาร์เซนอลพบกับเบอร์มิงแฮมซิตี้ในลีกคัพปี 1997 แทนที่จะสร้างผลกระทบในเกมในฐานะซูเปอร์ซับ แต่กลับโดนไล่ออกจากสนามหลังจากลงสนามเพียง 33 วินาที หลังจากแทคเคิลสูงใส่มาร์ติน โอคอนเนอร์
5. 19 วินาที: มาร์ก สมิธ (Mark Smith)
นอกจากนักฟุตบอลแล้วผู้รักษาประตูเองก็ได้ใบแดงด้วยเหมือนกัน แต่คราวนี้เป็นคิวของมาร์ก สมิธ ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ ในการแข่งขันดิวิชั่น 3 ระหว่าง Crewe Alexandra และ Darlington ในปี 1994 โดยมาร์กสมิธได้ทำโปรเฟสชั่นนอลฟาล์ว (หรือทำฟาลว์ผู้เล่นที่กำลังหลุดเดี่ยวไปดวลกับประตูต่อต่อตัว ซึ่งในสมัยนั้นผู้ตัดสินจะให้ใบแดงสถานเดียว แต่หากเกิดเหตุแบบนี้ในปัจจุบันผู้ตัดสินจะให้ใบเหลือง) หลังจากนั้นสมิธก็โดนไล่ออกจากสนามหลังจากลงสนามเพียง 19 วินาที
6. 10 วินาที: จูเซปเป โลเรนโซ (Giuseppe Lorenzo)
หนึ่งในใบแดงที่ไวที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลเป็นของ จูเซปเป โลเรนโซ ขณะเล่นให้สโมสรฟุตบอลโบโลญญ่าในปี 1990 โดยแมตช์นั้นเจอกับสโมสรปาร์มากัลโช 1913 โดยโลเรนโซพุ่งแทคเคิลเข้าใส่ผู้เล่นอีกคนเข้าอย่างจัง ถือว่าเป็นการแทคเคิลที่อันตรายต่อผู้เล่นคนอื่นอย่างมาก ซึ่งตัวโลเรนโซเองก็เพิกเฉยต่อกฎการแข่งจนได้ใบแดงและถูกไล่ออกจากสนามหลังจากลงสนามเพียง 10 วินาที
7. 2 วินาที: ลี ท็อดด์ (Lee Todd)
หลายคนอาจตกใจกับตัวเลขนี้และคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ยังไงนะ แค่ 2 วินาทีเท่านั้นเอง แต่ลี ท็อดด์เป็นนักเตะที่พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าแค่สองวิก็ได้ใบแดงได้เหมือนกัน ซึ่งใบแดงครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการแทคเคิลหรือแกล้งล้มแต่อย่างใด แต่เกิดจากที่เขาไปด่าผู้ตัดสินในแมตช์ซันเดย์ ลีกระดับล่างสุดของอังกฤษที่ขึ้นชื่อเรื่องความเพี้ยนที่มีคนดูในสนามไม่ถึงร้อยคน โดยแมตช์นี้เป็นศึกดวลแข้งระหว่าง Taunton East Reach และ Cross Park Farm หลังจากผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มเกมเล่นได้เพียง 2 วินาที ท็อดด์ก็สบถออกมาว่า “f**k me, that was loud!” และนั่นก็เป็นเหตุผลให้เขาได้ใบแดงไปเชยชมก่อนใครเพื่อนเลย
8. 0 วินาที: คีธ กิลเลสพาย (Keith Gillespie)
หนึ่งในนักเตะที่ได้ใบแดงอย่างไม่น่าให้อภัยจะเป็นไปใครไม่ได้นอกจาก คีธ กิลเลสพาย อดีตปีกแมนยูที่ถูกไล่ออกจากสนามทันทีหลังจากลงสนามได้เพียง 0 วินาทีในแมตช์ที่พบกับเรดดิ้งในการแข่งพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2007–08 เหตุเกิดจากกิลเลสพายมีปากเสียงกับ สตีเฟน ฮันท์ และฟันศอกเข้าใส่อย่างเต็มแรงต่อหน้าผู้ตัดสิน เป็นผลให้ได้ใบแดงไปรับประทานตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเกมเลยทีเดียว ถือว่าเป็นใบแดงที่เร็วที่สุดอีกใบหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลเลยก็ว่าได้